ทำไมบางคนเข่าเสื่อมจนขาโก่ง…แต่กลับไม่มีอาการปวดเข่าเลย?

คุยกับหมอวิภู ตอนที่ 2

รศ.นพ. วิภู กำเหนิดดี ผู้เชี่ยวชาญโรคปวดเรื้อรัง (คลินิกหมอวิภู โทร 061 636 2853)

ทำไมบางคนเข่าเสื่อมจนขาโก่ง…แต่กลับไม่มีอาการปวดเข่าเลย?

เสื่อมมากไม่ได้แปลว่าจะต้องปวดมากเสมอไป

โรคข้อเข่าเสื่อมสามารถวินิจฉัยได้จากภาพถ่ายเอ็กซเรย์ซึ่งหมอทุกคนดูเป็นครับผม คือจะเห็นจากฟิล์มว่าช่องว่างของข้อเข่ามันแคบลง และในบางคนก็จะมีกระดูกแหลมๆงอกออกมาให้เห็น ซึ่งคุณหมอจะเรียกมันว่าสเปอร์ (spur)ครับ คุณหมอจะแบ่งระดับของความรุนแรงของเข่าเสื่อมตามลักษณะของฟิล์มเอ็กซ์เรย์ที่เห็น เช่น ถ้าช่องเข่าแคบลงเยอะมาก มีกระดูกงอกเยอะๆ แบบนี้คือเสื่อมมากครับ ทีนี้ตามความรู้สึกของเราคือ ถ้าเข่าเสื่อมมากมันก็ควรจะปวดมาก เสื่อมน้อยก็น่าจะปวดน้อยถูกมั้ยครับ

แต่ในความเป็นจริง..ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไปครับ

คุณเคยเห็นมั้ยครับ? คุณปู่คุณย่าบางท่านเข่าเสื่อมจนขาโก่ง แต่ท่านกลับเดินเฉยโดยไม่มีอาการเจ็บปวดใดๆ แต่บางท่านขายังไม่ทันโก่ง เอ็กซเรย์ก็พบว่าเข่าเพิ่มเริ่มเสื่อม แต่อาการปวดกลับมาก

ที่เป็นเช่นนี้เพราะการที่ข้อเข่าเสื่อมจะมีอาการมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยผสมๆกัน นอกจากกระดูกอ่อนที่ฉาบบนผิวข้อมันจะสึกแล้ว ยังผสมด้วยการอักเสบของข้อเข่าที่มากน้อยไม่เท่ากันในแต่ละคน (ใช่ครับโรคข้อเข่าเสื่อมมันจะมีการอักเสบผสมอยู่ด้วยไม่มากก็น้อย) หรือบางท่านมีการหดเกร็งของกล้ามเนื้อรอบเข่า บางรายอาจมีถุงน้ำรอบเข่าอักเสบผสมโรงเข้าไปอีก บางท่านมีความเสื่อมของเส้นเอ็นรอบเข่าทำให้เอ็นยืด เข่าก็เลยหลวมครับ ดังนั้นภาพถ่ายเอ็กซเรย์ซึ่งจะเห็นเพียงแค่ความเปลี่ยนแปลงของกระดูกจึงไม่ได้เป็นตัวตัดสินว่าคนไข้จะต้องปวดมากหรือน้อยครับ

และเหนือสิ่งอื่นใดปัจจัยสำคัญเลยคือ..”น้ำหนักตัว” ครับ

คนไข้หลายรายเลยที่หายปวดเข่าเพียงแค่ตั้งใจลดน้ำหนักอย่างจริงจัง พอน้ำหนักลง อาการปวดก็ดีขึ้นได้อย่างชัดเจน

จะเห็นว่าปัจจัยต่างๆที่ทำให้มีอาการปวดเข่านั้น หลายปัจจัยนั้นเราสามารถควบคุมได้ เช่น ลดอักเสบ ลดเกร็งของกล้ามเนื้อ ลดน้ำหนัก เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบเข่า เพียงแค่อายุที่มากขึ้น หรือภาพเอกซเรย์ที่ดูข้อเข่าเสื่อมเยอะไม่ได้ตัดสินว่าใครอาการดีหรืออาการหนักครับ ถ้าได้รับการรักษาฟื้นฟูดีๆอย่างถูกวิธีมันก็มีสิทธิ์กลับมาโอเคได้แน่นอนครับ

Keyword: เข่าเสื่อม; ข้อเข่าเสื่อม; โรคข้อเข่าเสื่อม